ว่านพระตบะ
ว่านพระตบะ ต้นใหญ่เพราะกระถางใหญ่สมบูรณ์
ความเชื่อส่วนตัว
ความเชื่อตามตำรา :
ครูบาอาจารย์กล่าวไว้ว่าว่านพระตบะสามารถใช้ป้องกันภูตผีปีศาจได้ดียิ่งนัก
ซึ่งสามารถใช้ได้ดีทุกส่วนของต้นว่าน หรือแม้แต่ดินที่ปลูกว่านพระตบะต้นนี้
เมื่อเอาซัดเข้าไปยังผู้ที่ถูกปีศาจสิงอยู่ จะสามารถขับไล่ปีศาจออกได้
หากนำว่านนี้ติดตัวไปด้วยภูตผีทั้งปวงจะเกรงกลัวและหลีกลี้หนีไกล
ไม่กล้าสำแดงฤทธิ์เดชอภินิหารใด ๆ
ว่านพระตบะสามารถใช้กับผีทุกประเภท
ไม่เว้นแม้กระทั่งพรายน้ำพรายบก และพรายอากาศทั่วไป ตลอดทั้งผีตามป่าดงพงสูง ผีป่า ผีปอบ ผีชมบ
ผีที่มีชื่อใด ๆ ก็ตามย่อมเกรงกลัวว่านนี้ทั้งสิ้น
ว่านพระตบะต้นนี้จึงใช้ปกป้องและป้องกันตัวได้ทุกสถานที่
จะไม่มีปีศาจชนิดใดมาสำแดงการหลอกหลอนได้เลย
ผู้ที่ถูกปีศาจเข้าสิงอยู่พอมองเห็นผู้มีว่านพระตบะเข้า
มักจะแสดงอาการเกรงกลัว ให้เห็นเป็นพิรุธทันที
ถ้าผีเข้าใครอยู่ เอาว่านพระตบะนี้ไปซุกไว้ใต้ที่นอนโดยไม่ให้รู้ตัว
มันจะกระโดดลุกหนีเพราะที่นอนนั้นร้อนเป็นไฟแก่มันขึ้นมา
ถ้าถือว่านนี้เข้าไปใกล้ก็จะล้มลงชักในทันที แต่มีข้อแม้ว่าว่านพระตบะจะไม่สามารถขับไล่ผีปู่ย่าตายายได้
แต่จะทำให้กลัว
เมื่อเห็นว่านพระตบะก็จะรีบออกหลังจากบอกความต้องการที่มารบกวนแล้วก็ออกไป
สำหรับ ในรายที่เข้าทรงเจ้า
ถ้านำหัวว่านนี้เข้าไปถามว่านี้คือว่านอะไร หากเป็นเจ้าเข้าทรงจริงๆจะรู้จัก
และบอกชื่อถูกรวมทั้งยังบอกสรรพคุณของว่านได้ แต่ถ้าเข้าทรงเท็จคือหลอกลวงแอบแฝงหากินโดยไม่มีใครเข้าทรงก็จะไม่รู้จัก
เพราะแม้แต่พระภูมิเทพเจ้าที่หรือเทพาอารักษ์ทุกองค์ท่านก็รู้จักว่านนี้ดีทั้งนั้น
เพราะว่านนี้ไม่มีอิทธิฤทธิ์อย่างใดแก่ท่าน
การนำไปใช้ตามความเชื่อสมัยโบราณ
เมื่อมีหญิงจะคลอดบุตร เพียงแบ่งหัวว่านพระตบะผูกแขวนไว้ตรงหัวนอนหญิงคนนั้น
และแขวนไว้ที่กระโจมเด็กเพียงชิ้นเล็ก ๆ ก็สามารถป้องกันได้ทุกอย่าง
ถ้าเด็กนอนสดุ้งผวา เอาว่านผูกข้อมือจะหลับสบาย ผู้ใหญ่หลับตาเห็นแต่ภูตผีปีศาจ
เอาว่านนี้ใส่ไว้ใต้หมอนก็จะหายได้
มีว่านนี้อยู่กับตัวพรายแม่ที่ตายไปจะมารบกวนลูกไม่ได้
และพรายลูกที่ตายไปก็ไม่อาจมารบกวนแม่ได้เช่นเดียวกัน ทาง
ที่ดีนั้นควรเอาว่านนี้ใส่ตลับแขวนห้อยคอไว้
จะป้องกันในทางปีศาจได้ทุกชนิดทุกอย่างหมดหากมีผีป่ากินคน
โดยมีอาการท้องร่วงเหมือนอหิวาให้ใช้หัวว่านนี้ฝนละลายน้ำให้กิน
ก็จะหายได้เหมือนกัน
ลักษณะของว่านพระตบะ : ต้นเหมือนต้นขมิ้นอ้อย
ทั้งต้นและใบมีสีเขียว หลังใบมีคราบคล้ายใบลิ้นเสือ ใต้ท้องใบจะมีขนนุ่ม
หัวเหมือนขมิ้นอ้อยแต่ใหญ่กว่านิดหน่อย ตะเกียงยาวก้าวก่าย มีรสร้อนฉุนจัด
เนื้อในมีสีขาว แสดงลักษณะว่ามีธาตุปรอทที่มีอิทธิฤทธิ์มา
วิธีการปลูกว่านพระตบะ : ว่านพระตบะต้องปลูก
วันข้างขึ้น ตรงกับ วันอังคาร พฤหัส หรือ วันเสาร์ จึงจะดี ก่อนปลูกต้องตั้ง นะโม
3 จบ แล้วตามด้วย อิติปิโส จนถึง ภะควาติ
3 จบ หรือ 9 จบ เวลารดน้ำ ต้อง
กลั้นลมหายใจท่อง นะโมพุทธายะ 3 จบ แล้ว